วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

6.               ภูมิอากาศแบบชายฝั่งทะเลตะวันตก  (Marine West Coast Climate  :  Cfb )  หรือเรียกกันทั่วไปว่า ภูมิอากาศแบบหมู่เกาะอังกฤษ   ภูมิอากาศแบบนี้จะอยู่ที่ บริเวณชายฝั่งด้าน

ตะวันตกของทวีป ที่ตั้งอยู่ระหว่างเส้นละติจูด 50 – 60 องศา และได้รับอิทธิพลของลมตะวันตก    ภูมิอากาศแบบนี้เป็น ภูมิอากาศเย็นสบาย ฤดูร้อนอากาศอบอุ่น และฤดูหนาวอากาศเย็น  มีฝนตกสม่ำเสมอ 

พืชพันธุ์ธรรมชาติเป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ ที่เหมาะสำหรับทำฟาร์มโคนม       พืชพันธุ์ธรรมชาติบริเวณนี้  ในบริเวณที่มีฝนตกชุกจะเป็นไม้ผลัดใบ และทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น  ส่วนบริเวณที่ลึกเข้าไปในทวีป มีภูมิอากาศแห้งแล้งและบริเวณที่สูง จะเป็นป่าสน

                                                7. ภูมิอากาศแบบไทก้า (Taiga Climate  :  Dc, Dd )    ลักษณะทั่วไปเป็นป่าสน  ภูมิอากาศ หนาวที่สุดในเขตหนาวด้วยกัน  บริเวณที่หนาวที่สุดของโลกคือ เมืองเวอรโคแยง  (Verkhoyansk)  ในเขตไซบีเรีย ทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย   ในฤดูหนาวอุณหภูมิ -68 องศาเซียเซียส  ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยวัดได้บนพื้นโลก  นอกจากบริเวณเขตไซบีเรียของรัสเซียแล้วก็มีบริเวณทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ แต่มีภูมิอากาศไม่หนาวรุนแรงเหมือนในเขตไซบีเรียของรัสเซีย

                                                พืชพันธุ์ธรรมชาติในบริเวณนี้ได้แก่ ป่าสน   ชาวรัสเซียเรียกป่าสนว่า ไทก้า (Taiga)  ซึ่งถูกนำมาใช้เรียกเป็นชื่อภูมิอากาศของเขตนี้  บริเวณป่าไทก้าเป็นป่าสนที่เขียวชอุ่มตลอดปี  การผลัดใบมีติดต่อกันตลอดเวลา  บริเวณเขตไซบีเรียคือบริเวณที่เป็นป่าสนที่ใหญ่ที่สุดของโลก   สัตว์ป่าที่สำคัญในบริเวณนี้ เป็นสัตว์ที่มีขนปุกปุย  ที่สำคัญได้แก่ มิงค์ (mink)   สุนัข์จิ้งจอก  หมีขาว   ซึ่งถูกล่านำเอาขนมาทำเครื่องนุ่งห่มที่มีราคาแพง

                                                8. ภูมิอากาศแบบทุนดรา (Tundra Climate  :  Et )   เป็นบริเวณที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี  ฤดูร้อนมีอุณหภูมิไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส  มีน้ำค้างแข็งทุกเวลา  มีฝนตกน้อยมาก  ฝนที่ตกมีลักษณะเป็นเกล็ดน้ำแข็งเล็กๆ   ได้แก่บริเวณชายฝั่งของเกาะกรีนแลนด์  ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ  และชายฝั่งทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย  มีบางบริเวณที่เป็นแหล่งน้ำอุ่น (Poliyas)  เป็น บริเวณที่กระแสน้ำอุ่นจากเบื้องล่างมหาสมุทรไหลวขึ้นมาบนผิวน้ำ  ทำให้น้ำบนบริเวณนั้นอุ่นขึ้นกว่าบริเวณรอบๆ  ทำให้เป็นแหล่งที่อยู่ของฝูงปลาจำนวนมาก 
                                                                 
                                                พืชพันธุ์ธรรมชาติบริเวณนี้ ได้แก่ ตะไคร่น้ำ  มอส  เฟิ้รน  ซึ่งเป็นอาหารของสัตว์น้ำต่างๆ    สัตว์ป่าสำคัญในบริเวณนี้ คือ กวางเรเดียร์  ซึ่งใช้เป็นสัตว์พาหนะสำคัญในการเดินทาง   แมวน้ำ  วอลรัส  และสิงโตทะเล   สำหรับบริเวณขั้วโลกใต้ คือ นกเพนกวิน

                                                9. ภูมิอากาศแบบทุ่งน้ำแข็ง  (Icecaps  :  EF )   เป็นบริเวณพื้นทีที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งตลอดปี  อุณหภูมิตลอดทั้งปีต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส   จีงไม่มีพืชพันธุ์ใดๆ ขึ้นได้เลย  บริเวณที่มีลักษณะภูมิอากาศแบบนี้ มีอยู่เพียงแห่งเดียว คือบริเวณ เกาะกรีนแลนด์ 

                                                10. ภูมิอากาศแบบทะเลทราย (Desert Climate  :  Bwk )   เป็นบริเวณที่มีภูมิอากาศทารุณที่สุด รองจากบริเวณทุ่งน้ำแข็ง  โดยเฉพาะบริเวณทะเลทรายสะฮารา  (Sahara Desert)  ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา  ภูมิอากาศระหว่างกลางวันกับกลางคืนแตกต่างกันมาก  ในเวลากลางวันอากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงถึง 58 องศาเซียเซียส  แต่ในเวลากลางคืนอากาศกลับเย็นจัด อุณหภูมิต่ำถึงจุดเยือกแข็ง   การระเหย ของไอน้ำมีมากเนื่องจากอากาศแห้งและร้อนจัดตลอดปี

                                                ทะเลทรายในเขตร้อนที่มีชื่อเสียง เช่น ทะเลทรายสะฮารา  ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา  ทะเลทรายอาหรับ    ทะเลทรายธาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย    ทะเลทรายโซโนรัน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแม๊กซิโก    ทะเลทรายกาลาฮารีในแอฟริกาใต้    ทะเลทรายในออสเตรเรีย   ทะเลทรายอะตาคามา  บริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของประเทศเปรู

                                                ทะเลทรายในเขตอบอุ่นที่สำคัญ คือ ทะเลทรายโกบี ทางตอนเหนือของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ทะเลทรายตาริม ซึ่งเป็นทะเลทรายในบริเวณแอ่งที่ราบที่มีภูเขาล้อมรอบ (Basin)   ทะเลทรายซุงกาเรีย    ทะเลทรายรัสเซีย-เตอรกีสถาน    และทะเลทรายในมลรัฐเนวาดาของประเทศสหรัฐอเมริกา  พืชพันธุ์ธรรมชาติในบริเวณนี้เป็นจำพวกหญ้าสั้นๆ  และจำพวกที่มีใบเล็กเป็นหนาม แหลม  เช่น กระบองเพชร   ในบริเวณที่มีแหล่งน้ำซึมซับจากใต้พื้นดิน ที่เรียกว่า โอเอซิส  (Oasis)  จะมีพวกต้นไม้ที่มีใบเขียวตลอดปีขึ้นได้บ้าง เช่น ไม้จำพวกปาร์ม  เป็นต้น

                                                11.ภูมิอากาศแบบที่สูง  (Hightland Climate  :  H )    ตามปกติเมื่อระดับความสูงเพิ่มขึ้นจากระดับน้ำทะเล  อุณหภูมิของอากาศจะลดลง 6.5 องศาเซียเซียส ทุกๆ ความสูง 1,000 ฟุตร จากระดับน้ำทะเล    ด้วยเหตุนี้บริเวณเทือกเขาสูง  หรือบริเวณที่ราบสูง  จึงมีอุณหภูมิของอากาศต่ำกว่าบริเวณที่ราบเชิงเขา หรือที่ราบลุ่มแม่น้ำ  เมืองตากอากาศที่สำคัญในเขตร้อนที่มีชื่อเสียงคือ เมืองแคมเมอรอนไฮต์แลนด์  ในมาเลเซีย    เมืองบาเกียว ในฟิลิปปินส์  และเมืองควิโต ในเอคัวดอร์  ยิ่งบริเวณที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก อุณหภูมิของอากาศยิ่งลดต่ำลงมาก ดังนั้นจึงทำให้ เทือกเขาคิลิมานจาโร

 (Kilimanfaro Mts.)  ทางตอนกลางด้านตะวันออกของทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นเทือกเขาสูงที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร  และมีความสูง 19,565 ฟุตจากระดับน้ำทะเล  จึงทำให้บริเวณยอดเขากลับมีหิมะปกคุลมตลอดปี  บริเวณที่มีความสูง 3,000 – 4,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล จะเป็นบริเวณที่มีหิมะปกคลุม ซึ่งเราเรียกระดับความสูงนี้ว่า แนวหิมะ” (Snow line)   พืชพันธุ์ธรรมชาติในบริเวณนี้ จะเป็นพืชพันธุ์แบบไทรก้า หรือแบบทรุนดรา คือ พวกป่าสน มอส ตะไคร่น้ำ  เฟิ้รน  เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น